สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ หรือ ฟีบา (FIBA) เป็นองค์กรที่ควบคุมดูแลกีฬาบาสเกตบอลระหว่างประเทศ ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล FIBA เค้าจัดประเภทพื้นสนามบาสเก็ตบอล เป็น 3 ระดับ คือ Level 1 , Level 2 , Level 3

ซึ่งปัจจัยที่ FIBA คำนึงถึงคือ การลดแรงกระแทก / การยุบตัวของพื้น / การกระดอนของลูกบอล / ความฝืด

เกณฑ์ของ FIBA เค้ากำหนด % การลดแรงกระแทกค่อนค่างแตกต่างกันมากระหว่าง Level 1 เทียบกับ Level 2,3 ขณะที่ ปัจจัยอื่นๆ อยู่ในเกณฑ์ % ที่ใกล้เคียงกัน เราขออธิบายความแตกต่างระหว่าง มาตรฐานพื้น FIBA Level 1-3 ให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

FIBA Level 1 คือมาตรฐานระดับสูงที่สุด โดยพื้นสนามจะต้องเป็น “พื้นไม้” เท่านั้น
โดยระบบพื้นไม้แบบ Fixed จะต้องลดแรกกระแทกได้ 50%
โดยระบบพื้นไม้แบบ Removable จะต้องลดแรกกระแทกได้อย่างน้อย 40%
พื้นสนามระดับ Level 1 จำเป็นสำหรับระดับนานาชาติ เช่น โอลิมปิก หรือ FIBA Basketball World Cup

FIBA Level 2 และ Level 3 เป็นมาตารฐานระดับรองลงมา
พื้นสนามเป็นได้ทั้ง พื้นไม้ และ พื้นยาง โดยตัวพื้นจะต้องลดแรงกระแทกได้ ไม่น้อยกว่า 25%
พื้นสนามระดับ Level 2 ใช้สำรับการแข่งระดับประเทศ
พื้นสนามระดับ Level 3 ใช้สำรับการแข่งขันทั่วๆไป

จะเห็นว่า % การลดแรงกระแทกของ Level 1 นั้นสูงกว่า Level 2,3 ค่อนข้างมาก การลดแรงกระแทก 50% ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ ต้องใช้ ระบบ และ วัสดุ ที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละผู้ผลิตพื้นไม้ก็ได้สร้างสรรค์ระบบพื้นไม้ออกมาในรูปแบบหน้าตาที่แตกต่างกัน

พื้นไม้โรงยิม มีความทนทาน สามารถใช้งานได้นาน อาจจะมากถึง 10 ปี ทาง ที.เอ็น.จี. ขอฝากให้ทุกท่านที่สนใจติดตั้งพื้นไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สนามบาสเก็ตบอล หรือ ลูกค้าที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ให้มองหาพื้นไม้ที่ผ่านการรับรองจาก FIBA ที่ระดับ Level 1